บริษัทผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเส้นด้ายรีไซเคิลรายแรกๆ ในประเทศจีน SHENMARK Textile ได้ให้บริการในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างภาคภูมิใจเป็นเวลากว่า 9 ปี ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือเส้นด้ายรีไซเคิล ซึ่งผลิตจากพลาสติก เศษแก้ว และเส้นด้ายเก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ วัสดุดังกล่าวได้รับการรีไซเคิลและแปรรูปเป็นเส้นใยอย่างมืออาชีพ จากนั้นจึงนำไปปั่นเป็นเส้นด้ายโดยใช้เทคนิคการเสริมแรงพิเศษ กระบวนการนี้ช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Sanmai ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เส้นด้ายรีไซเคิลนี้ทำมาจากพลาสติกหลังการบริโภค เศษแก้วหลังการบริโภค รวมถึงผ้าและเส้นด้ายที่เหลือใช้ การนำวัสดุเหล่านี้มาใช้ใหม่ช่วยลดทรัพยากรที่จำเป็นในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างมาก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผลิตขึ้นโดยการรวบรวมวัสดุและเส้นด้ายจากทั่วทั้งโลกในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยปกป้องโลกของเราอย่างมืออาชีพ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เหมาะสำหรับบุคคลที่ใส่ใจต่อโลก
เป็นเรื่องที่ดีที่บริษัทมีโรงงานเป็นของตัวเอง เพราะนั่นหมายความว่าเส้นด้ายรีไซเคิลของบริษัทมีความแข็งแรงทนทานและมีความคงทนในระดับสากล ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในอุตสาหกรรมการผลิตเส้นด้ายรีไซเคิล เพราะโรงงานจะต้องรับผิดชอบในการแสดงหลักฐานการรับรองมาตรฐานระดับโลกที่ผลิตภัณฑ์ได้รับ เช่น มาตรฐาน OEKO-TEX STANDARD 100 และมาตรฐาน Global Recycled Standard (GRS) ซึ่งรับรองว่าเส้นด้ายรีไซเคิลนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบด้านความปลอดภัยและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ซึ่งการรับรองเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าโรงงานได้รักษามาตรฐานและมาตรการความปลอดภัยที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
เป็นที่รู้จักกันดีว่าทุกกิจการนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น บริษัทจึงช่วยให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วยฝาครอบเกลียว (twistlet caps) ที่สามารถปรับแต่งได้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น เกลียว (ระดับความแน่นของเส้นด้าย) ทิศทางการบิด (ตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา) การบรรจุภัณฑ์ และสี สิ่งเหล่านี้สามารถออกแบบได้หลากหลาย ซึ่งเมื่อรวมกับกระบวนการผลิตหรือการสร้างตราสินค้าเฉพาะของแต่ละแบรนด์ ก็จะช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักของเส้นด้ายเหล่านี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ H&M, Adidas, Nike, New Balance และ Zara ต่างเลือกที่จะร่วมงานกับบริษัทนี้ ด้วยฐานะของบริษัทในฐานะพันธมิตรร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ บริษัทสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ที่โปร่งใส มีความสม่ำเสมอ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยสนับสนุนแบรนด์ต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แบรนด์เหล่านี้จึงมีความไว้วางใจในกระบวนการดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ระดับแนวคิดไปจนถึงขั้นตอนการผลิต
ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เพียงวัสดุ แต่ยังเป็นวิถีคิดที่ใหม่เอี่ยมอ่อง มันเป็นไปตามแนวทางการค้าที่เป็นธรรม ซึ่งหมายความว่าผู้จัดหาและพันธมิตรนั้นปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและค่าจ้างที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงจรจัด และบริจาคให้กับศูนย์ช่วยเหลือในท้องถิ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรับผิดชอบนั้นกินความลึกซึ้งไปไกลเกินกว่าแค่การทำธุรกิจ